บริการของเรา

รับเปลี่ยนหนังหุ้มเฟอร์นิเจอร์

รับเปลี่ยนหนังหุ้มเฟอร์นิเจอร์ อาทิ เปลี่ยนหนังหุ้มโซฟา เก้าอี้ เบาะรองนั่ง ตามต้องการ มีชนิดของหนัง และเฉดสีต่างๆ ให้เลือกตามต้องการ

การเปลี่ยนหนังหุ้มที่ผ่านมา

การเปลี่ยนหนังหุ้มเฟอร์นิเจอร์ เป็นกระบวนการที่ช่วยฟื้นฟูสภาพของเฟอร์นิเจอร์ที่มีหนังหุ้มเดิมเสื่อมสภาพหรือมีรอยขีดข่วน ซึ่งการเปลี่ยนหนังใหม่สามารถทำให้เฟอร์นิเจอร์ดูใหม่และมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเลือกหนังที่มีสีและเนื้อสัมผัสใหม่ ๆ เพื่อให้เหมาะกับสไตล์และการใช้งานของบ้านหรือสำนักงาน

ขั้นตอนการเปลี่ยนหนังหุ้มเฟอร์นิเจอร์

  1. ตรวจสอบสภาพเฟอร์นิเจอร์:

    • ตรวจสอบโครงสร้างของเฟอร์นิเจอร์ เช่น โซฟาหรือเก้าอี้ ว่ายังอยู่ในสภาพดีหรือไม่ หากโครงสร้างเสียหายอาจต้องซ่อมแซมก่อนการเปลี่ยนหนังหุ้ม
  2. ถอดหนังเก่าออก:

    • ใช้เครื่องมือ เช่น คีม หรือลูกกลิ้งเพื่อลอกหนังเก่าที่มีอยู่ให้หมด หากจำเป็นต้องตัดหรือฉีกหนังเก่าออกให้หมด
  3. ทำความสะอาดโครงเฟอร์นิเจอร์:

    • หลังจากถอดหนังเก่าออกแล้ว ควรทำความสะอาดโครงเฟอร์นิเจอร์โดยใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ หรือสารทำความสะอาดเฉพาะเพื่อขจัดฝุ่นหรือคราบสกปรกที่อาจสะสมอยู่
  4. วัดขนาดของเฟอร์นิเจอร์:

    • วัดขนาดของโครงเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการหุ้ม เพื่อเตรียมวัสดุหนังที่มีขนาดพอดี โดยให้คำนึงถึงการเย็บและตัดที่ถูกต้องเพื่อให้ได้รูปทรงที่สวยงาม
  5. ตัดหนังใหม่:

    • ตัดหนังใหม่ให้มีขนาดเหมาะสมกับเฟอร์นิเจอร์ โดยการคำนวณความยาวและความกว้างที่เหมาะสมตามขนาดของเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการหุ้ม
  6. หุ้มและยึดหนังใหม่:

    • หุ้มหนังใหม่ไปบนโครงเฟอร์นิเจอร์แล้วใช้ตะปูหรือกาวสำหรับเฟอร์นิเจอร์ในการยึดให้แน่น อาจใช้การเย็บหรือการยืดหนังให้ตึงเพื่อให้ได้ลักษณะที่เรียบเนียน
    • ในกรณีที่เป็นการหุ้มโซฟาหรือเก้าอี้ อาจต้องใช้เครื่องมือเย็บเฉพาะ เช่น เครื่องเย็บปืน เพื่อให้การยึดติดแน่นและสวยงาม
  7. การตกแต่ง:

    • ตกแต่งขอบและรอยเย็บให้สวยงาม โดยใช้เทปหรือวัสดุตกแต่งขอบเพื่อปิดรอยต่อให้มิดชิด
  8. ตรวจสอบคุณภาพ:

    • หลังจากการหุ้มเสร็จสิ้น ควรตรวจสอบการติดตั้งหนังใหม่ว่ามีความเรียบร้อยและไม่มีรอยย่นหรือรอยหลวม ถ้าพบปัญหาต้องทำการแก้ไขก่อนการใช้งาน

วัสดุหนังที่ใช้ในการหุ้มเฟอร์นิเจอร์

  1. หนังแท้ (Genuine Leather):
    • มีความทนทานและมีอายุการใช้งานยาวนาน ดูหรูหราและมีความเป็นธรรมชาติ
  2. หนังเทียม (Faux Leather):
    • เป็นทางเลือกที่ประหยัดกว่า ทนทานและทำความสะอาดง่าย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลุคของหนังแท้แต่ในราคาที่ไม่สูง
  3. หนังไมโครไฟเบอร์ (Microfiber Leather):
    • ทนทาน ใช้การดูแลรักษาง่าย มีลักษณะคล้ายหนังแท้ แต่ราคาถูกกว่าและทนต่อการขีดข่วน

ข้อดีของการเปลี่ยนหนังหุ้มเฟอร์นิเจอร์

  • ฟื้นฟูรูปลักษณ์: สามารถทำให้เฟอร์นิเจอร์ดูใหม่และทันสมัยมากขึ้น
  • ยืดอายุการใช้งาน: การเปลี่ยนหนังหุ้มช่วยให้เฟอร์นิเจอร์ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
  • ปรับเปลี่ยนสไตล์: สามารถเลือกหนังที่มีสีสันและลวดลายที่ต้องการได้ ทำให้เฟอร์นิเจอร์เหมาะสมกับการตกแต่งบ้าน

ข้อควรระวัง

  • การเลือกวัสดุ: ควรเลือกวัสดุที่ทนทานและเหมาะกับการใช้งาน เช่น หนังแท้สำหรับการใช้งานที่หนักหน่วง หรือหนังเทียมที่ดูแลรักษาง่าย
  • การหุ้มให้แน่นและเรียบร้อย: หากหุ้มไม่ดีอาจทำให้หนังย้วยหรือหลุดล่อนเมื่อใช้งานไปสักพัก
  • การดูแลรักษา: ควรทำความสะอาดหนังอย่างสม่ำเสมอเพื่อยืดอายุการใช้งาน

การเปลี่ยนหนังหุ้มเฟอร์นิเจอร์ไม่เพียงแต่ช่วยฟื้นฟูสภาพของเฟอร์นิเจอร์เก่าให้ดูใหม่ แต่ยังเพิ่มความสวยงามและความสะดวกสบายในการใช้งานอีกด้วย